กำเนิดวงดนตรีคลาสสิค สุนทราภรณ์

กำเนิดวงดนตรีคลาสสิค

สำหรับยุคเราซึ่งเป็นยุคปัจจุบันนี้ก็จะมีแนวเพลงสมัยใหม่ที่ค่อนข้างหลายหลาย เพลงไทยเองก็จับเอาแนวเพลงสากลมาประยุกต์มากขึ้น จนแนวเพลงเก่าๆของไทยเองที่เป็นเอกลักษณ์ก็กลายเป็นอดีตที่กลายเป็นความคลาสสิคหาฟังเพลงใหม่ๆไม่ได้อีกเนื่องจากไม่มีการผลิตเพลงในแนวเพลงนี้ออกมาอีกแล้วนั่นคือเพลงสไตล์ลูกกรุงนั่นเอง ทำให้เพลงที่เคยออกมาแล้วกลายเป็นตำนาน แม้คนรุ่นใหม่นำมาร้องก็ยังไม่สามารถดึงเอาเสน่ห์ของลูกกรุงออกมาได้เหมือนต่นฉบับ และหนึ่งในวงดนตรีลูกกรุงที่โด่งดังมากและเรายังคงรู้จักชื่อกันดีมาจาถึงปัจจุบันนั่นคือ วงสุนทราภรณ์ นั่นเองในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับต้น กำเนิดวงดนตรีคลาสสิค วงนี้กันดูสักหน่อย รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้นตามเรามาดูกันเลย

กำเนิดวงดนตรีคลาสสิค สุนทราภรณ์ มีที่มาอย่างไร

วงสุนทราภรณ์นั้นเป็นวงดนตรีที่บรรเลงเพลงแบบไทยสากลเป็นวงแรก โดยแนวเพลงดนตรีของวงนั้นจะเป็นแนวลูกกรุงและแนวแจ๊สซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก วงสุนทราภรณ์นี้เป็นการรวมตัวกันของศิลปินที่มีชื่อเสียงในขณะนั้นหลากหลายคน โดยผู้จัดตั้งคือครูเพลง เอื้อ สุนทรสนาน  เริ่มแรกนั้นวงดนตรีของครูเอื้อถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นดนตรีประจำกรมโฆษณาการซึ่งใช้สำหรับงานประชาสัมพันธ์ต่างๆ แต่ในกรณีที่ไม่ได้ทำงานของทางราชการ เป็นการเล่นดนตรีกันเองหรือรับงานส่วนตัวก็จะใช้ชื่อวงว่า “วงสุนทราภรณ์” นั่นเอง ซึ่งวงดนตรีนี้ครูเอื้อได้ร่วมก่อตั้งกันกับเพื่อนๆตั้งแต่ปีพ.ศ.2479

บทเพลงชื่อดัง ที่คลาสสิคมาจนถึงปัจจุบัน

วงสุนทราภรณ์นั้นยังคงมีเรื่อยมาจนถึงปันจุบันและสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยในปัจจุบันนี้สิทธิ์ในการจัดการงานและการดูแลวงแยกออกเป็นสองแบบ  นั่นคืองานราชการผู้จัดการจะเป็น คุณโฉมฉาย อรุณฉาย  ส่วนวงดนตรีสุนทราภรณ์นั้นได้ส่งต่อเป็นมรดกมายังรุ่นลูกของครูเอื้อนั่นคือ คุณอติพร เสนะวงศ์  ซึ่งศิลปินที่เข้ามาร่วมแสดงและบ้นทึกผลงานนั้นจะแบ่งเป็นรุ่นๆไป โดยตั้งแต่เริ่มตั้งวงจนถึงปัจจุบันมีศิลปินมาร่วมร้องเพลงในวงสุนทราภรณ์มากกว่า 100 คน  บทเพลงชื่อดังที่เรายังคงคุ้นเคยมาจนถึงปัจจุบันประกอบไปด้วยเพลงที่ยังคงตราตรึงใจเรามากมายตัวอย่างเช่นสุขกันเถอะเรา,ฟลอร์เฟื่องฟ้า,พรหมลิขิต,พรานล่อเนื้อ,รอพี่,คมปาก,ปาริชาติ,เดือนประดับใจ เป็นต้น

You may also like